มาพิสูจน์ “กรุงเทพฯ” เป็นเมืองสวรรค์จริงหรือ?
เมื่อเข้ากรุงเทพฯ ใหม่ๆ คุณสัมฤทธิ์หนุ่มชาวศรีสะเกษมีความฝันอยากเป็นนักร้องในสไตล์ สันติ ดวงสว่าง เพราะดูว่าจะเป็นอาชีพสนุกและหาเงินได้ง่าย แต่เอาเข้าจริงๆ เขาถูกหลอกให้ไปร้องเพลงตามงานโปรโมตสินค้า หวังได้รางวัล แต่ต้องผิดหวังได้แต่ความว่างเปล่า
เมื่อพบแต่ความผิดหวัง แต่เขาก็ใจสู้ พยายามไปสมัครงานอยู่หลายแห่ง จนในที่สุด ได้มาทำงานเฟอร์นิเจอร์ โดยเริ่มเป็นเด็กฝึกงาน ทำทุกอย่างในร้านเฟอร์นิเจอร์แถว ถนนลาดพร้าว เริ่มเรียนรู้การทำเฟอร์นิเจอร์ เช่น บุสปริง ทากาว ห่อเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ เป็นเวลา 3 ปีเต็ม จนมีความรู้และเข้าใจในโครงสร้างของตัวเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น อย่างละเอียด
คุณสัมฤทธิ์หนุ่มสู้ชีวิต เล่าถึงการฝึกงานเฟอร์นิเจอร์ที่เขาได้มีโอกาสทำทุกขั้นตอน จนเกิดความเข้าใจในระบบการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไปโดยอัตโนมัติ แต่ก็เป็นงานที่เขาต้อง อดทนต่อสู้เพราะขาดเงินทอง เนื่องจากเมื่อเขาฝึกงานแล้ว เจ้าของกิจการเอาเปรียบ ไม่ค่อยให้เงินให้ทองใช้ ใช้แต่แรงงาน แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ช่วยให้เขาเรียนรู้และเริ่ม เข้าใจในกลไกการผลิตเฟอร์นิเจอร์มากยิ่งขึ้น ทำให้รู้จักคิดออกแบบงานเฟอร์นิเจอร์ โดยเขานำเอาเฟอร์นิเจอร์มาชำแหละชิ้นส่วนเพื่อเป็นการศึกษา แล้วนำไปสู่การออกแบบ การผลิตเฟอร์นิเจอร์ในรูปทรงใหม่ๆ ต่อไป
ถึงจะโชคดีได้เรียนรู้การผลิตเฟอร์นิเจอร์ก็จริง แต่เงินทองที่ควรจะได้ก็ถูกละเลย ได้บ้างไม่ได้บ้าง ทนทำอยู่ถึง 7 ปีเต็ม เลยหาหนทางเปลี่ยนงานเป็นเซลส์แมนขายเฟอร์ นิเจอร์อยู่ 2 ปี แต่เงินทองก็ยังฝืดเคืองอยู่ดี และนี่เป็นที่มาของการเริ่มคิดก่อร่างสร้างตัวในฐานะช่างซ่อมและการออกแบบเฟอร์นิเจอร์อย่างเต็มตัว
ก้าวสู่ช่างซ่อมเฟอร์ฯ มืออาชีพ ด้วยเงิน 2 หมื่นบาท
ถึงจะเข้ากรุงเทพฯ มาใช้ชีวิตอย่างลุ่มๆ ดอนๆ มีกินบ้าง อดบ้าง แต่คุณสัมฤทธิ์ก็สู้กัดฟันทน จนมีประสบการณ์ในงานเฟอร์นิเจอร์อย่างมืออาชีพโดยใช้เวลาเรียนรู้กว่า 10 ปี ทีเดียว ปี พ.ศ. 2537 หนุ่มศรีสะเกษได้ร่วมใจร่วมแรงกับ คุณเกษร แฟนสาว ฮึดสู้เปิดร้านซ่อมเฟอร์นิเจอร์ด้วยเงินที่ไปหยิบยืมมาจำนวน 20,000 บาท เพื่อลงทุน เปิดกิจการให้สมใจปรารถนา
คุณสัมฤทธิ์ เล่าว่า เขาพยายามหาเช่าสถานที่เปิดร้านซ่อมโซฟาในราคาถูกที่สุด ประมาณเดือนละ 2,000 บาท และใช้วิธีปิดป้ายโฆษณาหน้าร้านเพื่อให้ลูกค้าทราบและสนใจ มาใช้บริการซ่อมและออกแบบเฟอร์นิเจอร์อย่างมีคุณภาพและราคาไม่แพง ด้วยฝีมือผู้ผ่านประสบการณ์การผลิตงานเฟอร์นิเจอร์มากว่า 10 ปีย่อมน่าเชื่อถือได้
ช่างอีสานคนเก่งพยายามดำเนินกิจการงานเฟอร์นิเจอร์ด้วยความสามารถตั้งแต่แถวลาดพร้าวมาถึงรัชดาภิเษก งานเฟอร์นิเจอร์เดินหน้าด้วยดีเป็นลำดับ กิจการเริ่มรุ่งขึ้น มีงานมากขึ้น ก็ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจนสามารถชดใช้หนี้จำนวน 20,000 บาท เพื่อลงทุนในตอนแรกสำเร็จ
ความมานะ อดทน นำไปสู่ความสำเร็จของการงาน
คุณสัมฤทธิ์เป็นคนมีความตั้งใจจริง มีความมานะอดทนและใฝ่ฝันจะมีกิจการที่มั่นคงเป็นของตนเอง เนื่องจากร้านเช่าที่ทำกิจการจะให้เช่าไม่นาน แต่อย่างไรก็มีคนเห็นใจ ให้โอกาสให้เช่าพื้นที่ระยะยาวขึ้นแถวถนนนวมินทร์ ตรงข้ามกับสถานีตำรวจลาดพร้าว ใกล้กับตลาดบางกะปิ เลยทำให้นายช่างหนุ่มเกิดมีกำลังใจในการประกอบกิจการ ในด้านออกแบบและซ่อมเฟอร์นิเจอร์ โดยมีคุณเกษรแฟนสาวเป็นกำลังใจและทำหน้าที่เย็บจักรประกอบงานเฟอร์นิเจอร์อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยทุ่นค่าใช้จ่ายจ้างคนเย็บ ไม่ให้เสียเงินเสียทองมากยิ่งขึ้น ในส่วนที่ต้องใช้แรงงานผู้ช่วยช่างก็จะใช้แค่ 2 คน โดยว่าจ้างแบบเหมาการผลิตเป็นชิ้นงานซึ่งผู้ทำก็พอใจเพราะได้เงินดีกว่ากินแรงงานเป็นวันๆ
ปัจจุบัน ร้านสัมฤทธิ์เฟอร์นิเจอร์จะให้บริการหลากหลายรูปแบบ เช่น ซ่อมโซฟา เบาะ เก้าอี้ทุกชนิด ตลอดจนออกแบบเฟอร์นิเจอร์ตามคอนโดมิเนียม ห้องอาหาร ร้านคาราโอเกะ และสถานที่ต่างๆ ในราคากันเอง
อย่างไรก็ตาม “เส้นทางเศรษฐี” ได้สอบถามเรื่องราคาซ่อมเฟอร์นิเจอร์นั้นเป็นอย่างไร เพราะขณะนี้มีผู้คนต้องการซ่อมเฟอร์นิเจอร์กันมากเนื่องมาจากเจอมหาอุทกภัยครั้งล่าสุด คุณสัมฤทธิ์ ก็ได้ตอบกลับว่า เขาเต็มใจซ่อมเฟอร์นิเจอร์ให้อย่างดี มีคุณภาพและราคาไม่แพง เช่น เก้าอี้โซฟาทำใหม่เนี้ยบไม่แพ้ของเดิมราคาตัวละ 3,000 บาท เพราะใช้หนังมี คุณภาพคงทน เมื่อนำไปใช้แล้วคุ้มกับราคา
ทุกวันนี้ คุณสัมฤทธิ์ได้ผลิตผลงานเฟอร์นิเจอร์ทั้งรับซ่อมและออกแบบไว้มากมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาภาคภูมิใจว่า เขาเคยเป็นคนทำอะไรไม่เป็นเลย แต่ต่อมาด้วยความอดทน รู้จัก ฝึกฝนงานเฟอร์นิเจอร์ด้วยตนเอง จนกลายเป็นช่างผู้เชี่ยวชาญผลิตงานเฟอร์นิเจอร์ได้เป็นอย่างดี แถมยังมีกิจการเป็นของตนเอง ซึ่งได้เป็นตัวอย่างผลักดันให้ชาวศรีสะเกษ คนอื่นๆ อยากมาฝึกฝนเป็นช่างซ่อมโซฟาดูบ้าง เพราะเท่ากับเป็นการส่งเสริมอาชีพช่วยเหลือให้คนมีงานทำมากขึ้น สำหรับรายได้ก็พอควรเลี้ยงชีพได้ ไม่ต้องอดมื้อกินมื้ออย่าง แต่ก่อน เดี๋ยวนี้ช่างหนุ่มก็มีรายได้เลี้ยงตัวเดือนละเป็นหลักหมื่น ถึงแม้จะไม่มากมายนัก แต่มันก็เป็นรายได้ที่เกิดจากหยาดเหงื่อแรงงานของหนุ่มชาวอีสานที่ต่อสู้อย่างเต็มร้อย น่ายกย่อง
ฉะนั้น ถ้าท่านใดอยากสนับสนุนลูกอีสานให้ก้าวหน้าต่อไป ก็ลองใช้บริการของ สัมฤทธิ์เฟอร์นิเจอร์ ที่สามารถให้บริการทั้งซ่อมและออกแบบเฟอร์นิเจอร์อย่างมีคุณภาพ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณสัมฤทธิ์ จันทร์เจริญ (สัมฤทธิ์เฟอร์นิเจอร์) เลขที่ 170/120 ถนนนวมินทร์ เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
โทร. 094-443-0007